Java 101: Coding ภาษา Java ต้องเริ่มต้นอย่างไร?

Java 101: Coding ภาษา Java ต้องเริ่มต้นอย่างไร?

ภาษา Java อีกหนึ่งภาษาโปรแกรมที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีความปลอดภัย ประสิทธิภาพสูง และมีความยืดหยุ่น ทั้งยังเป็นภาษาที่สร้างโอกาสในการเริ่มทำงานโปรแกรมเมอร์ในแง่ของตัวเลือกการจ้างงานอีกด้วย 

จุดเด่นหลักๆ ของ ภาษา Java  

  1. เข้าใจง่าย: ภาษา Java ออกแบบมาให้เรียนรู้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ 
  1. เขียนโปรแกรมได้ทุกที่: เขียนโปรแกรม Java 1 ครั้ง รันได้ทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น Windows, Mac, Linux หรือ Android 
  1. มีเครื่องมือช่วย: มีเครื่องมือและ Library มากมาย ช่วยให้นักเขียนโปรแกรมทำงานได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเองทั้งหมด 
  1. ปลอดภัย: Java ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย เหมาะสำหรับการพัฒนาโปรแกรมที่ต้องรักษาข้อมูลสำคัญ 
     

สำหรับผู้เริ่มต้นเรียน การเลือกเรียนภาษา Java เป็นสิ่งที่ท้าทาย และไม่ยากจนเกินไป เมื่อเทียบกับภาษาโปรแกรมบางภาษา ยิ่งหากเรามีแนวทางในการเรียนภาษา Java ที่ชัดเจน ก็สามารถช่วยให้เราเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางด้านภาษา Java ได้รวดเร็ว และสามารถนำไปใช้ทำงานจริงได้ หากเราเป็นคนหนึ่งที่อยาก Coding ภาษา Java แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

1. เรียนรู้พื้นฐานภาษา Java

สิ่งแรกที่เราควรจะต้องรู้ คือ พื้นฐานของภาษา Java ซึ่งหากโปรแกรมเมอร์มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานภาษา Java เป็นอย่างดี ก็ช่วยให้เราสามารถเขียนโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถ Coding ชุดคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งผู้เริ่มต้นเรียนภาษาษา Java ต้องรู้

รู้ Syntax ภาษา Java

Syntax หรือพูดอีกอย่างก็คือไวยากรณ์ของภาษาคอมพิวเตอร์ เปรียบเสมือนการสื่อสารเพื่อบอกให้คอมพิวเตอร์ทำตามที่ต้องการ  ซึ่งหากเราใช้ไวยากรณ์ได้ถูกต้อง ก็จะทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจชุดคำสั่งและประมวนผลการทำงานได้อย่างถูกต้อง

รู้องค์ประกอบของภาษา Java

องค์ประกอบของภาษา Java ที่เป็นพื้นฐานของภาษา Java จะมี 

  • คลาส (Class) โครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ในการสร้างแม่แบบ เพื่อกำหนดพฤติกรรมของ Object (วัตถุ) ว่าแต่ละวัตถุที่สร้างมาจากคลาสนี้ จะเก็บข้อมูลอะไรบ้าง และมีเมธอดอะไรบ้าง 
  • เมธอด (Method) ชุดของคำสั่งที่นำมาเรียงร้อยต่อกันโดยมีเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถดำเนินการตามที่ต้องการได้ 
  • คำสั่ง (Statement) สิ่งที่เราใช้บอกคอมพิวเตอร์ให้ทำตามและใช้ควบคุมในการทำงานของโปรแกรม 
  • หมายเหตุ (Comment) ข้อความหรือประโยคที่ใช้ในการจดบันทึกรายละเอียดบางอย่างในโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมเมอร์สามารถเข้าใจได้ทันที ซึ่งจะช่วยในการทำงานร่วมกันแบบทีม 
ชุดคำสั่งของภาษา Java

การเขียนโปรแกรม เราจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับชุดคำสั่ง เพื่อควบคุมการทำงานของโปรแกรม รวมถึงบางกรณีที่โปรแกรมเมอร์ต้องควบคุมการทำงานของโปรแกรมตามเงื่อนไข การที่เรารู้เกี่ยวกับชุดคำสั่ง ก็จะช่วยให้เราสามารถเลือกชุดคำสั่งมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมการทำงานของโปรแกรมได้อย่างที่ต้องการอีกด้วย

2. ความเข้าใจเกี่ยวกับ OOP (Object-Oriented Programming)

OOP (Object-Oriented Programming) หรือก็คือ การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ เป็นรูปแบบแนวคิดการพัฒนาโปรแกรมที่เป็นที่ยอมรับ และใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากซอฟต์แวร์นั้นมีความซับซ้อนมากขึ้น และในบางครั้งอาจจะยากต่อการพัฒนา แต่ถ้าโปรแกรมเมอร์มีทักษะเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับ OOP ก็จะช่วยให้สามารถจัดการกับความซับซ้อนได้ โดยการแบ่งปัญหาออกเป็นส่วนย่อย ๆ ผ่านการใช้วัตถุ (object) และคลาส (Classes) ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาและดูและรักษาได้ง่ายยิ่งขึ้น สิ่งนี้ทำให้ง่ายต่อการจัดระเบียบและบำรุงรักษาโค้ดรวมถึงการนำโค้ดกลับมาใช้ซ้ำในแอปพลิเคชันต่าง ๆ 

สำหรับผู้เริ่มต้นที่กำลังเรียนภาษา Java ไม่ควรพลาดที่จะพัฒนาทักษะนี้

3. ศึกษาการทำงานกับ Collection 

สำหรับผู้เริ่มต้นที่กำลังเรียนภาษา Java การศึกษาและพัฒนาทักษะด้านการทำงานกับ Collection เป็นหนึ่งส่วนสำคัญในการทำงานโปรแกรมเมอร์ โดยทักษะนี้จะช่วยให้สามารถจัดการและจัดระเบียบข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้โครงสร้างข้อมูลต่าง ๆ เช่น List, Set และ Map เพื่อจัดการข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการ รวมถึงประสิทธิภาพของการประมวลผลที่สูงขึ้น และยังมีความยืดหยุ่น สามารถจัดการข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ โดยใช้ทรัพยากรระบบอย่างมีประสิทธิภาพ 

4. การใช้งาน Library

หากเราต้องการลดเวลา และลดข้อผิดพลาด  ในการ Coding ต้องรู้วิธีการใช้งาน Library เราสามารถนำทรัพยากรฟังก์ชันที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาต่อ หรือนำมาใช้ซ้ำได้ทันที โดยที่ไม่ต้องเริ่ม Coding จากศูนย์ ไม่ต้องพัฒนาฟังก์ชันที่มีอยู่แล้วขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้หากเราเลือก Library ที่ได้รับการพัฒนาและมีการทดสอบมาอย่างดีจากชุมชนหรือนักพัฒนามืออาชีพ ฟังก์ชันที่ได้มัักจะมีความเสถียร และมีข้อผิดพลาดน้อย เมื่อเรานำมาใช้ในการพัฒนาโปรแกรมของเรา ก็จะช่วยลดข้อผิดพลาดในโปรแกรมได้ ดังนั้น หากเรามีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้งาน Library ควบคู่ไปกับการเรียนภาษา Java ตั้งแต่เริ่มต้น ก็ช่วยให้เราพัฒนาทักษะได้ดียิ่งขึ้น

5. การใช้งาน API

API (Application Programming Interface) คือ การเชื่อมต่อระบบหนึ่งไปสู่ระบบหนึ่ง เพื่อให้ระบบต่าง ๆ สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องรู้รายละเอียดการทำงานภายในของกันและกัน  

API เปรียบเสมือนตัวกลางที่คอยรับคำสั่ง ประมวลผล และส่งข้อมูลกลับไป หากโปรแกรมเมอร์ไม่รู้วิธีการใช้งาน API อาจจะทำให้พัฒนาฟังก์ชันขั้นสูง การรวมระบบ และการสื่อสารระหว่างระบบเป็นไปได้ยาก รวมถึงเราอาจจะพัฒนาบริการต่าง ๆ ได้ยาก เช่น การจ่ายเงินออนไลน์ เป็นต้น รวมทั้งหากไม่รู้วิธีการใช้ API อาจจะทำให้ระบบมีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีได้ง่าย ดังนั้น หากต้องการเป็นโปรแกรมเมอร์มืออาชีพ ต้องศึกษาและพัฒนาทักษะเรื่องการใช้งาน API ด้วย

6. การทำงานกับฐานข้อมูล

การทำงานกับฐานข้อมูลเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาระบบ เนื่องจากฐานข้อมูลเป็นที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในที่เดียวกัน โดยการจัดระเบียบข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่และมีความสัมพันธ์กัน 

หากโปรแกรมเมอร์รู้วิธีการทำงานเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูล ก็จะช่วยให้สามารถนำข้อมูลมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันหลายองค์กรให้ความสำคัญกับการเข้าถึงข้อมูล การจัดเก็บ การเรียกค้น และการประมวลผลข้อมูล เพื่อให้ตอบสนองต่อผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ 

ดังนั้น ผู้เริ่มต้นที่กำลังพัฒนาทักษะโปรแกรมเมอร์จำเป็นต้องรู้และเข้าใจการทำงานกับฐานข้อมูล โดยเฉพาะผู้ที่เรียนภาษา Java เนื่องจากการจัดการฐานข้อมูลใช้ระบบ DBMS (Database Management System) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยตอบโต้ระหว่างฐานข้อมูลและโปรแกรมเมอร์โดยตรง

7. ฝึกทำโปรเจกต์จากตัวอย่างที่ใช้ทำงานจริง เพิ่มระดับเขียนโปรแกรม Java ที่สามารถไปทำงานได้

การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่สำคัญที่ช่วยให้เราสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะในการ Coding ได้คล่องขึ้น 
ผ่านประสบการณ์ที่ได้ลงมือทำ ดังนั้น เมื่อเราเรียนรู้พื้นฐานและเข้าใจการใช้งานพื้นฐานเป็นอย่างดีแล้ว ให้เพิ่มระดับการเขียนโปรแกรม Java ให้สูงขึ้น โดยการลองทำโปรเจกต์ที่มีเงื่อนไข และโครงสร้างที่ซับซ้อน เพื่อนำทักษะที่เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้งาน โดยการหาฝึกจากโปรเจกต์ตัวอย่างงานจริง ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยพัฒนา ทักษะในการตัดสินใจ เลือกใช้งาน Coding Function, Library ได้คล่องขึ้น  ยิ่งโปรแกรมเมอร์ได้ฝึกจาก ตัวอย่างโปรเจกต์จากงานจริง มากเท่าไร จะยิ่งทำให้ เพิ่มความชำนาญได้เร็ว จนกลายเป็นโปรแกรมเมอร์มืออาชีพได้ในที่สุด

8. ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยพัฒนาทักษะ และช่วยให้การเรียนภาษา Java ของผู้เริ่มต้น ประสบความสำเร็จได้ คือ การศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการ Coding ได้  
ตัวอย่างแหล่งความรู้ และ Community Java  ที่ช่วยแก้ไขปัญหา ได้จริง 
The Ladder ได้คัดเลือก และรวบรวม Web ที่โปรแกรมเมอร์มืออาชีพใช้งานกันจริงในทุกๆวัน 
มาให้ตามด้านล่างนี้  ช่วยพัฒนาทักษะและแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้น 

คอร์สเรียน และ VDO สอนภาษา Java จากแพลตฟอร์มออนไลน์ 

ปัจจุบันมีเว็บไซต์ บล็อก คอร์สเรียน หรือคลิปวิดีโอมากมายที่มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับผู้เริ่มต้นเรียนภาษา Java ซึ่งเราสามารถเลือกหาความรู้จากแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ตรงกับรูปแบบการเรียนของเราได้ด้วยตนเอง 
โดยสำหรับผู้เริ่มต้น The Ladder แนะนำ ให้คัดเลือก คอร์สเรียน หรือคลิปวีดีโอ การสอนที่กระชับมีขอบเขตชัดเจนสอนสิ่งสำคัญที่ไปใช้ทำงานได้จริง ผู้สอน สอนด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย และเน้นฝึกปฎิบัติจริง โดยต้องสร้างทักษะ Hard Skill, Soft Skills & Team Skills ที่จำเป็นในการทำงานไปพร้อมกันด้วย จะช่วยให้เป็นโปรแกรมเมอรได้้เร็วขึ้น 

คอร์สเรียน Java ฺBootcamp

สำหรับใครที่ต้องการเน้นทักษะพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง แต่มีเวลาจำกัด การเลือกศึกษาจากคอร์สเรียน Java Bootcamp ก็ถือเป็นอีกทางหนึ่งที่ตอบโจทย์ ที่จะมี ผูู้สอน, ผู้ช่วย ดูแลสอนสดในสถานที่ที่กำหนด  
แต่ก็จะมีปัญหาด้านเวลา และ ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ต้องเป็นเวลาตามที่ Bootcamp กำหนดและใช้เวลาหลายสัปดาห์ ผู้เริ่มต้นที่ทำงานประจำไปด้วย อาจจะไม่สามารถเรียนได้  
แต่ผู้เริ่มต้นที่มีเวลาและงบประมาณเพียงพอ สามารถเลือกลง Java ฺBootcamp ได้ 
โดย The Ladder แนะนำ ให้คัดเลือก Bootcamp ที่มีหลักสูตรกระชับ มีขอบเขตชัดเจน สอนสิ่งสำคัญที่ไปใช้ทำงานได้จริง ผู้สอน สอนด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย และเน้นฝึกปฎิบัติจริง 
โดยต้องพัฒนาทักษะทั้ง 3 ด้านคือ Hard Skill, Soft Skills & Team Skills ที่ใช้ทำงานจริง ไปพร้อมกันด้วย จะช่วยให้เป็นโปรแกรมเมอรมืออาชีพได้เร็วขึ้น

สรุป

แนวทางเหล่านี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นเส้นทางการเรียนรู้ภาษา Java ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และมีทิศทางในการฝึกฝนที่เหมาะสม คุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อวางแผนการฝึกทักษะด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

หากคุณมีเวลาจำกัด แต่ต้องการศึกษาภาษา Java อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถไปทำงานได้จริง 
ทาง The Ladder ได้รวบรวมและคัดสรรเนื้อหาที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการทำงานในสายอาชีพ Java Developer มาไว้ในคอร์ส Java Spring Boot คุณจะได้ การเรียน ที่กระชับ เรียนสิ่งสำคัญที่ใช้ทำงาน อธิบายเรื่องซับซ้อนให้เข้าใจง่าย ด้วยศัพท์ที่ไม่ยาก ทำให้สนุกไปกับการเรียน พัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำงานจริง 
เริ่มต้นเส้นทางการเรียนรู้ภาษา Java เป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ เป็นโปรแกรมเมอรมืออาชีพได้เร็วขึ้น 

แสดงความคิดเห็น

Shopping Cart